วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551

การบ้านเรื่อง Ethernet

Ethernet
ความหมายของIEEE 802.3IEEE 802.3 หรือ อีเทอร์เน็ต (Ethernet) เป็นเครือข่ายที่มีความเร็วสูงการส่งข้อมูล 10 เมกะบิตต่อวินาทีสถานีในเครือข่ายอาจมีโทโปโลยีแบบัสหรือแบบดาว IEEE ได้กำหนดมาตรฐานอีเทอร์เน็ตซึ่งทำงานที่ความเร็ว 10 เมกะบิตต่อวินาทีไว้หลายประเภทตามชนิดสายสัญญาณเช่น
• 10Base5 อีเทอร์เน็ตโทโปโลยีแบบบัสซึ่งใช้สายโคแอกเชียลแบบหนา (Thick Ethernet)ความยาวของสายในเซกเมนต์หนึ่ง ๆ ไม่เกิน 500 เมตร
• 10Base2 อีเทอร์เน็ตโทโปโลยีแบบบัสซึ่งใช้สายโคแอ๊กเชียลแบบบาง (Thin Ethernet) ความยาวของสายในเซกเมนต์หนึ่ง ๆ ไม่เกิน 185 เมตร
• 10BaseT อีเทอร์เน็ตโทโปโลยีแบบดาวซึ่งใช้ฮับเป็นศูนย์กลาง สถานีและฮับเชื่อมด้วยสายยูทีพี (Unshield Twisted Pair) ด้วยความยาวไม่เกิน 100 เมตรรูปที่ข้างล่าง แสดงถึงลักษณะเครือข่ายอีเทอร์เน็ตแยกตามประเภทของสายสัญญาณ รหัสขึ้นต้นด้วย 10 หมายถึงความเร็วสายสัญญาณ 10 เมกะบิตต่อวินาที
คำว่า “Base” หมายถึงสัญญาณชนิด “Base” รหัสถัดมาหากเป็นตัวเลขหมายถึงความยาวสายต่อเซกเมนต์ในหน่วยหนึ่งร้อยเมตร (5=500, 2 แทนค่า 185) หากเป็นอักษรจะหมายถึงชนิดของสาย เช่น T คือ Twisted pair หรือ F คือ Fiber opticsส่วนมาตรฐานอีเทอร์เน็ตความเร็ว 100 เมกกะบิตต่อวินาทีที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่100BaseTX และ 100BaseFX สำหรับอีเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบกิกะบิตอีเทอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายมากขึ้น ตัวอย่างของมาตรฐานกิกะบิตอีเทอร์เน็ตในปัจจุบันได้แก่ 100BaseT, 100BaseLX และ 100BaseSX เป็นต้น
อีเทอร์เน็ตใช้โปรโตคอล ซีเอสเอ็มเอ/ซีดี (CSMA/CD : Carrier Sense Multiple Access with Collision Detection) เป็นตัวกำหนดขั้นตอนให้สถานีเข้าครอบครองสายสัญญาณ ในขณะเวลาหนึ่งจะมีเพียงสถานีเดียวที่เข้าครองสายสัญญาณเพื่อส่งข้อมูลสถานีที่ต้องการส่งข้อมูลต้องการตรวจสอบสายสัญญาณว่ามีสถานีอื่นใช้สายอยู่หรือไม่ ถ้าสายสัญญาณว่างก็ส่งข้อมูลได้ทันที หากไม่ว่างก็ต้องคอยจนกว่าสายสัญญาณว่างจึงจะส่งข้อมูลได้ ขณะที่สถานีหนึ่ง ๆ กำลังส่งข้อมูลก็ต้องตรวจสอบสายสัญญาณไปพร้อมกันด้วยเพื่อตรวจว่าในจังหวะเวลาที่ใกล้เคียงกันนั้นมีสถานีอื่นซึ่งพบสายสัญญาณว่างและส่งข้อมูลมาหรือไม่ หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นแล้ว ข้อมูลจากทั้งสองสถานีจะผสมกันหรือเรียกว่า การชนกัน (Collision) และนำไปใช้ไม่ได้ สถานีจะต้องหยุดส่งและสุ่มหาเวลาเพื่อเข้าใช้สายสัญญาณใหม่ ในเครือข่ายอีเทอร์เน็ตที่มีสถานีจำนวนมากมักพบว่าการทานจะล่าช้าเพราะแต่ละสถานีพยายามยึดช่องสัญญาณเพื่อส่งข้อมูลและเกิดการชนกันเกือบตลอดเวลา โดยไม่สามารถกำหนดว่าสถานีใดจะได้ใช้สายสัญญาณเมื่อเวลาใด อีเทอร์เน็ตจึงไม่มีเหมาะกับการใช้งานในระบบจริง 2.10 Base 210 Base 2
เป็นรูปแบบต่อสายโดยใช้สาย Coaxialมีเส้นศูนย์กลาง 1/4 นิ้ว เรียกว่า Thin Coaxial สายจะมีความยาวไม่เกิน 180 เมตรมาตรฐาน 10 Base 2 ความหมาย 10 คือความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps Baseคือการส่งข้อมูลแบบ Baseband 2 คือความยาวสูงสุด 200 เมตร (185 – 200 เมตร ) 10 Base 2 เป็นแบบเครือข่ายที่ใช้สาย Coaxial แบบบาง (Thin Coaxial) ชนิด RG-58 A/U โดยจะมี Teminator (50 โอมห์ ) เป็นตัวปิดหัว และท้ายของเครือข่ายข้อกำหนดของ 10 Base 2
• ใช้สาย Thin Coaxial ชนิด RG-58 A/U
• หัวที่ใช้ต่อกับสายคือ หัว BNC
• ห้ามต่อหัว BNC เข้ากับ LAN Card โดยตรง ต้องต่อด้วย T-Connector เท่านั้น
• เครื่องตัวแรกและตัวสุดท้ายในเครือข่าย ต้องปิดด้วย Terminator ขนาด 50 โอมห์
• ความยาวของสายแต่ละเส้นที่ต่อระหว่าง Workstation ต้องมีความยาวไม่ต่ำกว่า 0.5 เมตร
• สายสัญญาณต่อ 1 Segment ยาวไม่เกิน 200 เมตร (185 – 200 เมตร )
• ใน 1 Segment สามารถต่อเป็นเครือข่ายได้ไม่เกิน 30 เครื่อง
• ในกรณีที่ต้องการต่อมากกว่า 30 เครื่อง ต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Repeater เพื่อเพิ่ม Segment โดยสามารถต่อ Repeater ได้ไม่เกิน 4 Repeater ( ดังนั้น 4 Repeater = 5 Segment)
• ความยาวของสายสัญญาณทั้งหมด สูงสุด 1000 เมตร (200 เมตรต่อ 1 Segment คูณด้วย 5 Segment)
• จำนวนเครื่องสูงสุดในเครือข่าย 150 เครื่อง (30 เครื่องต่อ 1 Segment คูณด้วย 5 Segment)3.10 Base 5ความหมาย 10 คือความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps Base คือการส่งข้อมูลแบบ Baseband
• คือความยาวสูงสุด 500 เมตร 10 Base 5 เป็นแบบเครือข่ายที่มีลักษณะคล้ายกับ 10 Base 2แต่จะใช้สาย Coaxial แบบหนา (Thick Coaxial หรือ Back Bone)เป็นสายชนิด RG-8 ซึ่งสายจะเป็นสีเหลืองและมีขนาดใหญ่โดย Teminator (50 โอมห์ ) เป็นตัวปิดหัวและท้ายของเครือข่าย เครือข่ายชนิด 10 Base 5 นี้ จะมีต่อจำนวนเครื่องได้มากกว่าและต่อในระยะได้ไกลกว่าแบบ 10 Base 2 แต่ในปัจจุบันมักไม่นิยมใช้กันเนื่องจากต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ควรทราบ มีดังนี้แผงวงจรเครือข่าย (LAN Card) คือแผงวงจรเครือข่ายที่เสียบไว้กับตัวเครื่อง และเชื่อมต่อด้วยสายเพื่อต่อเป็นเครือข่ายโดยแผงวงจรเครือข่ายนี้จะมีหัวเสียบเป็นชนิด DIX Connector Socket ( LAN Card ) ชนิด AUIใช้กับมาตรฐาน 10 Base 5ข้อกำหนดของ 10 Base 5
• ใช้สาย Thick Coaxial ชนิด RG-8
• หัวที่ใช้ต่อกับสายคือหัว DIX หรือบางทีอาจจะเรียกว่า หัว AUI
• เครื่องตัวแรกและตัวสุดท้ายในเครือข่ายต้องปิดด้วย N-Series Terminator ขนาด 50 โอมห์
• ระยะห่างระหว่าง Transceiver ต้องไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร
• Transceiver Cable จะมีความยาวได้ไม่เกิน 50 เมตร
• ใน 1 Segment สามารถต่อเป็นเครือข่ายได้ไม่เกิน 100 เครื่อง
• สายสัญญาณต่อ 1 Segment ยาวไม่เกิน 500 เมตร
• ในกรณีที่ต้องการต่อมากกว่า 100 เครื่อง ต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Repeaterเพื่อเพิ่มSegment โดยสามารถต่อ Repeater ได้ไม่เกิน 4 Repeater (ดังนั้น 4 Repeater = 5 Segment)
• ความยาวของสายสัญญาณทั้งหมด สูงสุด 2,500 เมตร (500 เมตรต่อ 1 Segment คูณด้วย 5 Segment )
• จำนวนเครื่องสูงสุดในเครือข่าย 500 เครื่อง (100 เครื่องต่อ Segment คูณด้วย 5 Segment )4.100 Base F100Base-Fสาย AMP OSP (Outside Plant) ถูกออกแบบมาเฉพาะเพื่อการติดตั้งในพื้นที่ขนาดใหญ่เพราะสามารถติดตั้งไว้บนเสาโยง หรือลอดท่อใต้ดิน เพื่อเชื่อมต่อระหว่างอาคาร สายถูกทดสอบตามมาตรฐาน TIA ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำหรับสายไฟเบอร์ออปกติ ทั้งยังมีคุณสมบัติเกินมาตรฐานไปอีกขั้นจึงรองรับได้ทั้ง 100Base-F, 155/622 Mbps ATM และกิกะบิตอีเธอร์เน็ต5.100BASE-FX 100BASE-FX Multimode LC SFP Transceiver(P/N: DEM-211) มอบประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงให้กับแอพพลิเคชันการสื่อสารข้อมูลแบบซีเรียลออพติคัลดาต้า นอกจากนั้นยังประกอบด้วยตัวเชื่อมต่อที่มีการทำงานแบบดูเพล็กซ์ LC รวมถึงยังสามารถใช้งานร่วมกับมาตรฐานการสื่อสารแบบ IEEE 802.3u เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเป็น 100 เมกะบิตต่อวินาที ในโหมดฮาฟดูเพล็กซ์สำหรับแอพพลิเคชันเคเบิลไฟเบอร์ทั้งนี้การอินทริเกรทตัวรับส่งคุณภาพสูงของดีลิงค์นั้นก็เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นปราศจากอาการกระตุกของสัญญาณ และเพื่อให้การเชื่อมต่อแบบออพติคัลสามารถขยายออกไปได้มากยิ่งขึ้นโดยไม่มีการลดประสิทธิภาพลง อุปกรณ์นี้จึงช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะทางที่ไกลๆ ทั้งในส่วนของการใช้งานภายในอาคาร โรงงาน แคมปัสและในตัวเมืองมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น และเมื่อสวิตช์ 2 ตัวมีการเชื่อมต่อกันแล้วโดยใช้ตัวรับส่ง DEM-211 ทั้ง 2 ทาง ผู้ใช้งานจะได้รับอัตราเร็วของการเชื่อมต่อที่ระดับ 155 เมกะบิตต่อวินาที ยิ่งไปกว่านั้นยังได้มอบการเชื่อมต่อแบบไฟเบอร์ออพติค 100BASE-FX SFP บนพอร์ต Gigabit combo SFP ให้กับสวิตช์ของดีลิงค์อีกด้วย

วันพุธ, มิถุนายน 18, 2008

ข้อสอบ ปรนัย + อัตนัย วันที่ 18 มิถุนายน 2551

ปรนัย 10 ข้อ
1.ถ้า IP address ประกอบด้วย หมายเลขเครือข่าย หมายเลข subnet และหมายเลข host ตามตัวอย่างข้างบน บิตชุดที่ต้องค้นหาคือ ?
ก.24 บิตแรก
ข.34 บิตแรก
ค.64 บิตแรก
ง.84 บิตแรก
2.IP address 32 บิต จะอธิบายเป็น dot address คือ กี่กลุ่ม
ก.2 กลุ่ม
ข.3 กลุ่ม
ค.4 กลุ่ม
ง.5 กลุ่ม
3.IP Address คืออะไร?
ก.จำนวนตัวเลขสำหรับ Network ID และ Host ID
ข.สิ่งที่ใช้บอก ที่อยู่ของเครื่อง computer หรืออุปกรณ์บางอย่าง ที่ต่ออยู่ใน network
ค.สิ่งที่จะเป็นตัวจำแนก class ของ network
ง. ตัวเลขแต่ละตัว
4.Internet IP Address ใช้ในระดับ Address จะมี 2 ระดับ - 192.72.100.3 มีขนาดกี่บิต
ก.32 bit
ข.34 bit
ค.36 bit
ง.38 bit
5.วิธีการ AND ตัวเลข 2 ตัว สามารถทำได้โดยใช้เครื่องคิดเลขแบบ ใด.
ก.Scientific
ข.froom
ค.there
ง.them
6.การแบ่ง network ออกเป็นส่วนย่อยๆ สามารถทำได้โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า?.
ก.Subnet wask
ข.Subnet Mask
ค.Subnet Woot
ง.Subnet want
7.สิ่งที่จะเป็นตัวจำแนก class ของ network คือ?.
ก.root
ข.way
ค.boy
ง.bit
8.ในระบบเครือข่ายหนึ่งๆ Host ทุกเครื่องจะต้องใช้หมายเลขเครือข่ายเช่นใด.
ก.แตกต่างกัน
ข.คล้ายกัน
ค.เดียวกันทั้งหมด
ง.ไม่มีข้อถูก
9.ปกติการรับ-ส่ง Datagram จะมีอะไรเป็นตัวจัดการ?
ก.Router
ข.Pouter
ค.Fouter
ง.Bouter
10.การใช้ระบบการตั้งชื่อแบบ C ซึ่งจะมีจำนวน Host ได้ไม่เกิน กี่เครื่อง
ก.214เครื่อง
ข.254 เครื่อง
ค.255เครื่อง
ง.260เครื่อง

คำอธิบายรายวิชา

ความรู้เบื้องต้นเบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เครือข่าย การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์กับเทอร์มินอล ชั้นของโปรโตคอลมาตรฐาน OSI รูปแบบต่าง ๆ ของเครือข่าย X.25 เนตเวิร์คและดิจิตอลเนตเวอร์ค การประมวลผลแบบตามลำดับและแบบขนาน การไปป์ไลน์ (Pipelining) การประมวลผลแบบเวคเตอร์ (Vector Processing) การประมวลผลแบบอะเรย์ (Array Processors) มัลติโปรเซสเชอร์ (Multiprocessor) และฟอลท์โทเลอร์แรนซ์ (Fault Tolerance

e-learning ที่เกี่นยวข้อง

จาก โรงเรียนพิมายวิทยา โดย ... วีรจินต์ นาคะนิเวศน์
• Bank of America Securities: e-learning คือการมาบรรจบกันของการเรียนและอินเทอร์เน็ต
• Cornelia Weggen, WR Hambrecht & Co: e-learning [คือ] การส่งเนื้อหาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิคทั้งมวล ซึ่งหมายรวมถึงอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ต ดาวเทียม วิทยุโทรทัศน์ ออดีโอ/วิดีโอเทป TV แบบโต้ตอบ และ CD-ROM
• Elliott Masie, The Masie Center: e-learning คือการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเครือข่ายเพื่อออกแบบ นำส่ง เลือก บริหารจัดการ และขยายขอบเขตของการเรียนออกไป
• Arista Knowledge Systems: e-learning คือการใช้พลานุภาพของเครือข่ายเพื่อให้การเรียนเกิดขึ้นได้ในทุกเวลา ทุกสถานที่
• ChulaOnline : ทางเลือกหนึ่งในปัจจุบันที่มีขึ้นเพื่อพัฒนาระบบการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ ช่วยให้ผู้เรียนซึ่งอยู่ในจุดที่ห่างไกลจากผู้สอนสามารถที่จะเรียนเนื้อหาวิชา หลักสูตรต่างๆได้อย่างไม่จำกัดสถานที่และเวลา
• Thai2Learn : การศึกษาโดยใช้สื่อการเรียนผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ ซีดี รอม โดยมีระบบคอมพิวเตอร์รองรับ เพื่อให้ผู้เรียน สามารถได้เรียนรู้ในสิ่งที่ต้องการ และอำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนในการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา
• iknow : ระบบที่มีกระบวนการเรียนการสอนที่ใช้ Electronic อาจเป็นได้ทั้ง offline, online, server-based, web-based หรือ เครื่องที่ใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เช่น เครื่องวิทยุ - เทป - ซีดีรอม - TV - computer และแม้กระทั่งผ่านระบบดาวเทียม ปัจจุบันเป็นที่เข้าใจว่า e-learning หมายถึงการศึกษาระบบที่ใช้ Internet technology เป็นหลัก
• Thailand Securities Institute (TSI) : E เป็นอักษรย่อของคำว่า Electronics (อิเล็กทรอนิกส์) ซึ่งเมื่อรวมกับคำว่า Learning ที่แปลว่า การเรียนรู้ ก็จะได้คำจำกัดความของ E-Learning คือ ระบบหรือกระบวนการเรียนรู้ หรือการเรียนการสอน ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ วิดีโอ ซีดีรอม ระบบดาวเทียม ระบบ LAN และ Internet

รายชื่อเพื่อน

From:kimsath sath (kimsathsath@yahoo.com)http://kimsath.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:Gus m (guszaa_m@hotmail.com)http://guszaa.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นายจำนงค์ ศรีมาศ (srimas2007@hotmail.com)http://jumnong.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ชยาพงษ์ วังตะเคน (mo.04@hotmail.com)http://thekop-momo.blogspot.com^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:sulak Phonboon (sulak_laky@hotmail.com)http://sulak-noy.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:khamsan khampang (khampang3@hotmail.com)http://khampang.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ชาตรี แก้วมณี (chatree_05@thaimail.com)http://chatree-ton.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:มยุลี เสมศรี (mayulee8787@hotmail.com)http://mayulee8787.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นางสาว จันทร์ กฤษวี (janjun1@hotmail.com)http://janjun.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นางสาวประภาศิริ สุทธิหนู(nemo_yung@hotmail.com)http://lylulnlgl.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:sam an leakmuny (leakmuny@yahoo.com)http://leakmuny-sam.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ณัชพร ไชยมูล (clash_oud@hotmail.com)http://khukhan-bantim.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:วาฤดี สัมนา (waruedee_49@hotmail.com)http://waruedee.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:warawood wisetmuen (nicnicnic_02@hotmail.com)http://warawood.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:r y (overnarn@hotmail.com)http://tcomtoo.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:สุพรรษา ท่วาที (supansa_56@hotmail.com)http://puy-supansa.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:อรอุมา พละศักดิ์ (tep_ratree@hotmail.com)http://tepratree.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:สายรุ่ง พงษ์วัน (sayrung_@hotmail.com)http://koraikoo.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ศิริกัญญา ศิริญาณ (tumkatong@gmail.com)http://tumkatong.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:พรพรรณ สังขาว (aaa.37@hotmail.com)http://oake-pornpan.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นายเทิดศักดิ์ บุญรินทร์ (ton_therdsak783@hotmail.com)http://tonstaff.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นิพนธ์ ทรัพย์ประเสริฐ (nipoon_karn@hotmail.com)http://karnline.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ทัสนีย์ ประสาร (tatsanee_1234@thaimail.com)http://ningza-tatsanee.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:wasan dujda (nong2445572@hotmail.com)http://newcastle-wasan.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นิพนธ์ ทรัพย์ประเสริฐ์ (kan-49@hotmail.com)http://teerapon123.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:sophang sophaly (phangsophaly@hotmail.com)http://sophaly-phang.blogspot.com/

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

แนะนำตัวเอง

นายวิทวัส สุระมาศ
รหัส 4912252118
วิทยาการคอมพิวเตอร์ปี 3/1